119 Views |
แบตเตอรี่รถยนต์ใช้งานได้กี่ปี?
คุณคือหนึ่งในนั้นใช้ไหม? เมื่อแบตเตอรี่ของเรามีอาการเสื่อมสภาพ หรือทางศูนย์บริการแจ้งว่าแบตเตอรี่ของเราเริ่มเสื่อมสภาพ แต่เราจะไม่เปลี่ยนแบตตอรี่ที่ศูนย์บริการทันที เนื่องด้วยราคาแบตเตอรี่ที่ศูนย์บริการจะมีราคาสูงกว่าการเปลี่ยนแบตเตอรี่นอกศูนย์บริการพอสมควร รวมไปถึงยังมีค่าแรงของช่างเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ก็จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่สูงขัั้นไปอีก
การที่เราเริ่มหาข้อมูลการเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่? เราจะมีคำถามในใจคล้ายๆ กันว่า แบตเตอรี่ควรมีอายุเท่าไหร่ ทำไมแบตเตอรี่ของเราอายุสั้น หรือ แบตเตอรี่ยี้ห้อไหนดี แบตเตอรี่ใช้งานได้กี่ปี ซึ่งคำถามหล่านี้ไม่มีคำตอบที่ตายตัวว่าแบตเตอรี่รถยนต์ของเราจะใช้งานได้นานเท่าไหร่ครับ
โดย GS BATTERY ให้ข้อมูลว่า แบตเตอรี่รถยนต์จะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยประมาณ 1-2 ปี มีปัจจัยมากมายที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ลักษณะการใช้งานรถยนต์ของแต่ละบุคคล ใช้งานหนักมากจนเกินไป ใช้งานน้อยจนเกินไป สภาพอากาศ รวมทั้งการดูแลรักษาแบตเตอรี่ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลน้ำกลั่น หรือการทำความสะอาดแบตเตอรี่ไม่ให้มีคราบขี้เกลือ!
ซึ่งนอกจากเรื่องใช้การงานแล้ว ในปัจจุบันรถยนต์สมัยใหม่มีระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น เช่น ระบบฝาท้ายไฟฟ้า กล้องติดรถรูปแบบ Parking Mode หรือการปรับแต่งเครื่องเสียง เป็นต้น ทำให้ในขณะที่รถยนต์ดับ ระบบเหล่านี้จะดึงไฟจากแบตเตอรี่ไปเลี้ยงโดยตรง ซึ่งจะทำให้แบตเตอรีทำงานหนักมาก และเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพไวขึ้น
การเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่?
สำหรับรถยนต์ที่ผ่านการใช้งานมาระยะนึง หรือ รถของเรามีอายุมากขึ้นหากต้องการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ทางร้านแนะนำว่าท่านสามารถเลือกแบตเตอรี่ที่มีกำลังแอมป์สูงกว่ามาตรฐานของรถยนต์เล็กน้อย เนื่องจากเมื่ออายุการใช้งานรถยนต์มากขึ้น อุปกรณ์ต่างๆ ในรถยนต์ เช่น สายไฟ หรือไดชาร์จ อาจเสื่อมสภาพ และนำกระแสไฟฟ้าได้ลดลง ดังนั้น การเพิ่มแอมป์สูงกว่ามาตรฐาน เพื่อไม่ให้เกิดการจ่ายกระแสไฟไม่เพียงพอนั่นเองครับ
เมื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่เรียบร้อยแล้ว ทางร้าน FASTBATT มีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ เพื่อจะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ของเราให้ใช้งานได้นานขึ้น ไม่มากก็น้อย ดังนี้
1. แบตเตอรี่ใช้งานหนักต่อเนื่องมากกว่า 100 กม./วัน เป็นระยะเวลานาน แบตเตอรี่ประเภทที่ต้องดูแลน้ำกลั่นควรหมั่นตรวจสอบระดับน้ำกลั่นให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมเสมอ
2. สำหรับรถสายจอด การจอดรถทิ้งไว้ 3-7 วันขึ้นไปเป็นประจำ ต้องหมั่นสตาร์ทรถทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที/สัปดาห์ เพื่อกระตุ้นให้ไฟเข้าแบตเตอรี่ และลดความเสี่ยงที่แบตเตอรี่เสื่อมไวกว่าที่ควร หากมีความจำเป็นต้องจอดรถทิ้งไว้นานเกิน 1 สัปดาห์ ควรนำรถออกวิ่งประมาณ 30-45 นาที เพื่อให้กระตุ้นแบตเตอรี่ได้รับการชาร์ตไฟ
4. หากมีความจำเป็นต้องจอดรถทิ้งไว้ 1-2 เดือนขึ้นไป ควรตรวจสอบระดับไฟในแบตเตอรี่ก่อนใช้งาน หรือถอดแบตเตอรี่แล้วนำไปให้ช่างผู้เชี่ยวชาญกระตุ้นไฟเข้าแบตเตอรี่ก่อนใช้งาน เพื่อลดความเสี่ยงแบตเตอรี่เสื่อมสภาพไวกว่าที่ควร
5. หากหมั่นตรวจสอบ ดูแลแบตเตอรี่ดีแล้ว หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ แต่ยังเกิดปัญหารถยนต์สตาร์ทไม่ติด อาจสันนิษฐานได้เบื้องต้นว่าเกิดจากสาเหตุอื่นเช่น ไดชาร์จ ไดสตาร์ท หรือไฟรั่ว เป็นต้น